Sphero
ได้รับชุดลำโพงแบบ All in one มาทดสอบ แน่ ๆ เลยคือเป็นลำโพงให้ iPhone/iPod นอกจากนั้นก็เป็นทั้งนาฬิกาปลุกและวิทยุไว้ฟังได้อีกด้วย ที่เกริ่น ๆ ไปทั้งหมดก็คือเจ้ากล่องดำ Gear4 – Black Box
รูปร่างหน้าตา
ด้านบน
ช่องเสียบด้านหลังตัวเครื่อง
Gear4 – Black Box 24/7 รูปร่างตามชื่อเลยครับ เป็นทรงกล่องตัน ๆ แน่น ๆ ไล่จากด้านบนที่มีช่องเสียบ iPhone/iPod อยู่ตรงกลางโดยมี Dock Adapter สำหรับ iPod รุ่นต่าง ๆ มาให้ด้วยกัน 5 อัน ไล่เรียงปุ่มต่าง ๆ ที่เห็นกันอยู่ก็จะมีปุ่มปรับระดับเสียง (รูป +/-) ปุ่มปรับเมนูต่าง ๆ (รูปลูกศรขึ้นลง) ปุ่มเมนู (M) ปุ่ม Enter (E) โดยปุ่มทั้งหมดเป็นระบบสัมผัสที่เพียงแค่แตะ ๆ ก็ใช้งานได้แล้ว ส่วนจะต้องแตะแรงแตะค่อยแค่ไหนเดี๋ยวมาว่ากันอีกที ด้านหน้าจะเป็นจอแสดงผลตัวเลขขนาดใหญ่ โดยตัวเลขแสดงผลมีสีแดง พลิกมาด้านหลังจะเห็นช่องเสียบอยู่ 2 ช่องคือช่องเสียบอแดปเตอร์และช่อง AUX สำหรับนำแหล่งเสียงจากที่อื่นมาเปิดใน Black Box 24/7 ถัดมาเป็นเห็นเป็นเหมือนสายไฟเส้นเล็ก ๆ คือสายอากาศของวิทยุเอฟเอ็ม
ซ้าย : ช่องลำโพง / ขวา : ภาพเงาสะท้อนช่องลำโพง
สำหรับช่องลำโพงถูกซ่อนอยู่ข้างใต้ตัวเครื่องพลิก ๆ หงาย ๆ ดูก็พอเห็นได้ว่าช่องลำโพงมีขนาดกลาง ๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนที่ขาดไม่ได้อีกหนึ่งอย่างก็คือรีโมทตัวจิ๋วที่ใช้ทำหน้าที่แทนได้ทุกปุ่ม และที่สำคัญใช้ควบคุมการเลือกเพลงและเมนูบางอย่างใน iPhone/iPod ได้ ขนาดของรีโมทค่อนข้างเล็ก โดยบนปุ่มต่าง ๆ จะมีตัวหนังสือหรือสัญลักษณ์บอกว่าแต่ละปุ่มให้ทำหน้าที่อะไร รวม ๆ แล้วสำหรับรูปร่างหน้าตาที่ออกแนวขรึม ๆ เรียบ ๆ ต่างจากยี่ห้ออื่นน่าจะโดนใจใครอยู่บ้าง ส่วนวัสดุตัวเครื่องทำจากพลาสติกก็ไม่ได้ง่อนแง่นอะไร
การใช้งาน
สำหรับการใช้งานแรกเร่ิมผมนำ iPhone เครื่องที่ใช้อยู่มาจิ้มลงไปทันที เท่านั้นเองก็มีข้อความเด้งขึ้นมาหน้าจอไอโฟนบอกว่าเจ้าอุปกรณ์ช้ินนี้ไม่รองรับกับ iPhone เต็มที่นะ จะใช้ต่อรึเปล่า ซึ่งก็กด ๆ 2-3 ทีไม่มีปัญหาอะไรสามารถใช้งานได้ปกติ เร่ิมจากการใช้ฟังเพลงร่วมกับ iPhone/iPod ที่พอนำเครื่องวางตัวเครื่องก็จะเข้าโหมดฟังเพลงจาก iPhone/iPod ให้อัตโนมัติ สำหรับการควบคุมเสียงรวมถึงการเลือกเพลงต่าง ๆ สามารถกดจากตัวเครื่องได้ผ่านปุ่มแบบระบบสัมผัสที่ค่อนข้างไวพอสมควร ที่บอกว่าไวไปก็เพราะเวลาที่กำลังเอานิ้วกด ๆ อยู่แล้วเผลอเอามือวางทาบไปบนเครื่องเท่านั้นแล เราจะได้เห็นเครื่องทำนู้นนี่ตามที่เราวางมือพาดไปว่าไปโดนปุ่มไหนบ้าง สำหรับเรื่องปุ่มแบบสัมผัสบนเครื่องก็มีจุดสังเกตนิดหน่อยคือบางครั้งวางนื้วไปบนปุ่มแล้วไม่ตอบสนอง ซึ่งก็ลอง ๆ ดูพบว่าอาจจะต้องวางน้ิวไว้ช่วงกลางของปุ่มสักหน่อยถึงจะตอบสนองได้ดีที่สุด
สำหรับการฟังเพลงจาก iPhone/iPod แล้วใช้รีโมทเป็นตัวควบคุมคำสั่งต่าง ๆ อันนี้เด็ดกว่า เพราะเจ้ารีโมทสามารถใช้งานการเลือกเมนูในส่วนของ iPod ได้เกือบทั้งหมด โดยการเปลี่ยนเมนูจะเร่ิมจาก Playlist > Artists > Songs > Videos > More > Now Playing แล้วก็จะวนกลับไปอันแรกใหม่ ซึ่งถ้าใน iPhone หรือ iPod touch มีการตั้งเมนูสลับกันก็จะเรียงสลับตามนั้นไปด้วย (เรียงจากซ้ายไปขวา) ทดลองเข้าในส่วนของ Songs แล้วกดปุ่มเลื่อนเพลงค้างไว้จากรีโมท เพื่อดูว่าการเลื่อนขึ้นลงทำได้เร็วแค่ไหน ซึ่งก็ทำได้เร็วประมาณหนึ่งไม่ได้อืดอาดอะไรนัก แต่ถ้าเพลงมีเยอะมาก ๆ การที่จะเลื่อนเพื่อเลือกเพลงจาก iPhone/iPod ก็ยังเป็นทางเลือกที่เร็วที่สุดอยู่ดี
ถัดมาเป็นการใช้ฟีเจอร์วิทยุที่รับได้เฉพาะระบบเอฟเอ็ม โดยตัวเลขคลื่นวิทยุจะรับได้แบบจุดทศนิยมหลักเดียว ส่วนที่ปลื้มก็คือยังใช้วิทยุในการเลือกคลื่นวิทยุที่ต้องการได้ด้วยการกดปุ่มขึ้นลงเพื่อเลือกสถานีวิทยุที่ต้องการ ส่วนที่รู้สึกว่าขาดไปนิดก็คือไม่มีระบบตั้งให้จำคลื่นวิทยุโปรดของเราทำให้ต้องเสียเวลเลือกคลื่นวิทยุทุกครั้งไป สำหรับความชัดเจนของการฟังวิทยุชัดเจนดีแม้สายอากาศจะยังขดตัวอยู่ในซองพลาสติกก็ตาม ทั้งนี้ก็คงขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ด้วยว่าเป็นจุดอับสัญญาณคลื่นนั้น ๆ ด้วยรึเปล่า
ถัดเป็นการเรื่องการตั้งนาฬิกาปลุกที่สามารถตั้งได้ 2 เวลา (Alarm 1 และ Alarm 2) โดยการตั้งปลุกดูซับซ้อนไปหน่อย ด้วยความที่บางปุ่มทำหน้าที่หลายอย่าง หรืออาจจะมีกดค้างพร้อมกัน 2 ปุ่มเพื่อใช้ทำอีกอย่าง ทำให้การตั้งเวลาต้องรู้ว่าพอเข้าโหมดนี้แล้วต้องกดปุ่ม M หรือ E ต่อเพื่อเลือกตั้งชั่วโมงหรือนาที จากนั้นค่อยกดตกลงเพื่อเป็นการยืนยัน ซึ่งสมมุติว่าเรากดตั้งค่า Alarm 1 เสร็จพอกดเมนูอีกทีก็จะเจอให้ตั้งค่า Alarm 2 อีกที สำหรับการตั้งปลุกสามารถตั้งได้ว่าจะให้ปลุกแบบปกติ ปลุกด้วยเสียงจากวิทยุหรือปลุกด้วยเสียงเพลงจาก iPhone/iPod โดยทั้งหมดสามารถตั้งค่าได้ทั้งจากตัวเครื่องหรือรีโมท
ไฟเรืองแสงสีฟ้า
แนวเส้นไฟเรืองแสงสีฟ้าอยู่ใต้นาฬิกา
ส่วนที่ Gear4 – BlackBox 24/7 แอบทำเก๋นิดนึงก็คือมีไฟสีฟ้าเรืองรองมาเผื่อเวลากลางคืนแล้วต้องการแสงนิด ๆ หน่อย ๆ เพื่อดูส่ิงต่าง ๆ บริเวณที่วาง BlackBpx ไว้ ประมาณว่าวางไว้ การกดเพื่อให้มีแสงไฟสีฟ้า แค่กดที่ปุ่ม On/Off ค้างไว้ประมาณ 2-3 วินาทีเท่านี้เราก็จะเห็นแสงไฟแล้ว ส่วนการปิดก็เช่นเดียวกันคือกดปุ่ม On/Off ค้างไว้ประมาณ 2-3 วินาที
สรุปสำหรับ Gear4 – BlackBox 24/7 ถือว่าครบเครื่องมากพอดู ระบบปุ่มสัมผัสโดยส่วนตัวผมให้อยู่ในขั้นกลาง ๆ เนื่องจากบางครั้งวางนิ้วลงไปแล้วเราไม่รู้ว่ากดส่ิงที่ต้องการได้หรือยัง แต่เรื่องนี้ก็ถูกแทนที่ด้วยรีโมทแบบปุ่มกดปกติที่สามารถทำหน้าที่แทนได้ทุกอย่าง ส่วนจุดด้อยบางอย่างนอกเหนือจากเรื่องปุ่มแบบสัมผัสก็คงจะเป็นในเรื่องการตั้งค่าเกี่ยวกับนาฬิกาที่ดูซับซ้อนไปหน่อยและการกดเรียกไฟสีฟ้า ๆ ออกมาปุ่มก็ดันมาอยู่ที่เดียวกับปุ่ม On/Off ซึ่งถ้าเรากดพลาดก็จะกลายเป็นการปิดหรือเปิดเครื่องไป
จุดสังเกต
ราคา : 4,900 บาท
เอื้อเฟื้ออุปกรณ์ทดสอบ : บริษัทอาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด
วางจำหน่ายที่ :
kangg