Sphero
ต่อยอดจากมินิเฮดโฟนรุ่นยอดนิยมที่หลายคนจับตาว่าจะสามารถทำได้ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมเพียงใดกับ Sennheiser PX 200 II
ซ้าย : ความหนาของนวมหูฟัง PX 200 / ขวา : ความหนาของนวม PX 200 II
รูปร่างหน้าตาของ Sennheiser PX 200 II แว๊บแรกตัวโครงดูบึกขึ้นกว่ารุ่นเดิมอย่างสังเกตได้ โดยเฉพาะช่วงนวมหูฟังที่หนากว่ารุ่นเดิมทำให้สามารถกันเสียงจากภายนอกได้ดีกว่าเดิม สำหรับโครงในส่วนที่เป็นพลาสติกจะดูหนาขึ้นเล็กน้อย ข้อดีที่ทำได้ดีขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าก็คือสายหูฟังที่เหลือแค่ข้างซ้ายข้างเดียว สำหรับตัวปรับระดับเสียงที่สายหูฟังอยู่ต่ำไปสักหน่อยโดยผมก็ได้วัดจากความสูงของผมนี่แหล่ะ (173 ซ.ม.) ลองยืนตรง ๆ ก็พบว่าตัวปรับระดับเสียงจะอยู่บริเวณขอบกางเกง เรียกว่าต่ำพอควร
ด้านเสียงเท่าที่ฟังถ้าชอบบุคลิกเสียงของ PX 200 รุ่นเดิมก็ต้องบอกว่ารุ่นนี้เสียงดีขึ้น โดยเฉพาะมิติของเสียงเพราะระยะห่างของแหล่งกำเนิดเสียงกับหูของเราเพิ่มมากขึ้นจากความหนาของนวมหูฟังที่เพิ่มขึ้น ด้านเสียงกลางทำได้ดีขึ้นซึ่งช่วยให้เสียงของเครื่องดนตรีมีความชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม สำหรับเสียงเบสเทียบกันหมัดต่อหมัดจากรุ่นเดิมยังคงสูสีกันแบบที่ PX 200 II ดีขึ้นแต่ก็ไม่ได้เห็นชัดเจนมากนัก โดยรวมสิ่งที่เรียกว่าเป็นรุ่นที่ 2 ที่ทำได้ดีขึ้นคือให้เสียงได้เต็มลูกมากขึ้น
ด้านการใช้งานอื่น ๆ ที่ดูจะเป็นข้อดีแต่ยังขัดใจเวลาใช้งานอยู่ก็คือตัวปรับระดับเสียงที่ห้อยลงมาต่ำไปสักหน่อย ทำให้สายหูฟังดูหนัก ๆ หน่วง ๆ ไปบ้าง ทางแก้เรื่องนี้ก็คือจับเจ้าตัวปรับระดับเสียงเหน็บเข็มขัดหรือเหน็บปลายเสื้อไปเสียเลย เรื่องความคล่องตัวของ PX 200 II ยังคงทำได้ดีคือสามารถพับเก็บได้ในไม่กี่ขั้นตอนเรียกว่าจะหยิบใช้หรือพับเก็บก็รวดเร็ว โดยรวมสำหรับ Sennheiser PX 200 II ถ้าใครมีเจ้า PX 200 ก่อนหน้าอยู่แล้วคงไม่ค่อยสนเท่าไหร่ แต่ถ้าใครที่เคยได้แค่ลองและยังไม่ได้สู่ขอ PX 200 มาไว้ที่บ้านขอให้ไปลอง PX 200 II ก่อนว่าเป็นยังไง จะได้รู้ว่าน้ำพริกถ้วยเก่ารสเด็ดหรือน้ำพริกที่เพิ่งโขลกเสร็จใหม่ ๆ รสแซ่บถ้วยไหนน่ากินกว่ากัน
จุดสังเกต
ราคา : 3,990 บาท
เอื้อเฟื้ออุปกรณ์ทดสอบ : บ. อีพีเอส ไอที พลัส (โทร. 02-694-3161)
หาซื้อสินค้าได้ที่ :
kangg