Audio-Technica
Audio-Technica
จากข่าวที่แอปเปิ้ลเริ่มทำโครงร่างของอาคารบ้านเรือนต่างๆ ในกรุงเทพฯ บนแผนที่ของแอปเปิ้ลบ้างแล้ว (ข่าวเก่า) หลายๆ คนคงอาจจะเคยนึกสงสัยว่าแอปเปิ้ลสามารถสร้างแบบจำลอง 3 มิติ ตามเมืองใหญ่ๆ บนแผนที่ได้อย่างไร วันนี้มีคำตอบค่ะ
ก่อนอื่น ลองไปค้นหาข้อมูลว่าแอปเปิ้ลเคยซื้อหรือควบรวมกิจการบริษัทใดบ้าง ที่ทำกิจการเกี่ยวกับแผนที่ การนำทาง หรืออื่นๆ ที่น่าจะเกี่ยวข้องกับการทำ 3D Flyover Maps ได้ข้อมูลบริษัทที่แอปเปิ้ลเคยซื้อกิจการที่น่าสนใจ ดังนี้
จากข้อมูลข้างต้น บริษัท C3 Technologies จึงน่าจะเป็นบริษัทที่เหมาะสมที่สุดที่แอปเปิ้ลนำมาใช้เป็นเทคโนโลยีหลักในการทำ 3D Flyover Maps
มาดูข้อมูลที่น่าสนใจของบริษัท C3 Technologies ว่าทำไมแอปเปิ้ลถึงสนใจเทคโนโลยีของบริษัทนี้
C3 Technologies เป็นบริษัทสัญชาติสวีเดน แยกตัวมาจากบริษัท Saab AB ที่ทำธุรกิจผลิตเครื่องบินรบและผลิตภัณฑ์ต่างๆ เกี่ยวกับทางทหาร เมื่อปี 2007 โดย Mattias Astrom (CEO), Kjell Cederstrand (CFO) และ Ludvig Emgard (Product Manager) มีพนักงานประมาณ 50 คน ให้บริการข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ของเมืองในแบบจำลอง 3 มิติ มีจุดเด่นคือเน้นแบบจำลอง 3 มิติ ที่มีความละเอียดสูง และมีคุณภาพใกล้เคียงกับของจริงมากที่สุด ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่จะใช้ทำแผนที่เมืองขนาดใหญ่มากๆ บนเว็บไซต์ เช่น Yellow pages เป็นต้น ถือได้ว่าเทคโนโลยี C3 เป็นเทคโนโลยีด้านแผนที่ที่ไม่ซ้ำใคร มีเพียงหนึ่งเดียวบนโลกใบนี้
แอปเปิ้ลซื้อบริษัท C3 Technologies เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2011 ด้วยราคาที่สูงถึง 267 ล้านเหรียญสหรัฐ (US$267,000,000) และยกเลิกการให้บริการกับลูกค้าทุกรายของบริษัท C3 Techonlogies ดังนั้นตอนนี้แอปเปิ้ลเป็นเพียงบริษัทเดียวที่สามารถใช้เทคโนโลยีของบริษัทนี้ได้ และในขณะนี้บริษัท C3 เป็นทีมหนึ่งในแผนก iOS ของบริษัทแอปเปิ้ล ชื่อ “Sputnik” โดยยังมีผู้ก่อตั้งบริษัท C3 Technologies ทั้ง 3 คนเป็นหัวหน้าทีม และทีมนี้ก็ยังทำงานกันอยู่ที่สวีเดนเหมือนเดิม
เทคโนโลยี C3 เป็นเทคโนโลยีที่สามารถสร้างแผนที่ 3 มิติของเมืองที่มีความแม่นยำ, ละเอียด และคุณภาพสูงได้โดยแทบไม่ต้องใช้แรงงานมนุษย์ในการสร้างแบบจำลอง 3 มิติ ซึ่งช่วยให้ประหยัดทั้งเวลา แรงงาน และเงิน ได้มาก โดยการสร้างแผนที่ 3 มิติจะใช้กล้องถ่ายภาพกับเทคโนโลยี C3 ในการเก็บรายละเอียดข้อมูลของ ตึก บ้าน หรือวัตถุเล็กๆ ต่างๆ เช่น ต้นไม้ เป็นต้น และเทคโนโลยี C3 ยังสามารถผสมผสานใช้งานกับแผนที่แบบ 2 มิติ, ภาพถ่ายดาวเทียม, ภาพถ่ายแบบ Street View หรือภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยฝีมือคน ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันได้อีกด้วย นับได้ว่าเทคโนโลยี C3 เป็นการผสมผสานและเปลี่ยนแปลงการใช้งานแผนที่และการสำรวจโลกเลยทีเดียว
หัวใจสำคัญของเทคโนโลยี C3
เทคโนโลยี C3 ทำงานโดยใช้เครื่องบินที่มีการติดอุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับบรรจุกล้องคุณภาพเดียวกันกับ DSLR (Professional-Grade Digital Single-Lens Reflex Cameras) บินสูงประมาณ 1,600 ฟุต (487.68 เมตร) ผ่านตามสถานที่ต่างๆ ที่ต้องการ เพื่อถ่ายภาพจากทางอากาศ โดยมีการใช้กล้องหลักจำนวน 4 ตัวที่ตั้งให้หันไปตามทิศหลักทั้ง 4 ทิศ (เหนือ, ใต้, ตะวันออก และตะวันตก) และให้กล้องเอียงทำมุมกับพื้นเพื่อที่จะได้ภาพถ่ายจากด้านข้างด้วย ภายในเครื่องบินยังมีกล้องเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง (ไม่มีการเปิดเผยว่ามีจำนวนกล้องเพิ่มเติมทั้งหมดกี่ตัวเนื่องจากเป็นความลับ) จับภาพที่ทับซ้อนกันจากมุมที่มีการกำหนดไว้อย่างดีแล้วอีกหลายๆ มุม ซึ่งมีข้อมูลเพียงเท่านี้ก็เพียงพอกับการสร้างแผนที่ 3 มิติของเทคโนโลยี C3 แล้ว
หลังจากนั้นจะนำข้อมูลภาพถ่ายทั้งหมดมาประมวลผลกับซอฟท์แวร์ของบริษัท C3 โดยจะทำการเปรียบเทียบภาพถ่ายที่ทับซ้อนกันเป็นคู่ๆ เพื่อวัดความลึกที่แท้จริงของวัตถุนั้นๆ และนำมาสร้างเป็นแผนที่ 3 มิติ ซึ่งซอฟท์แวร์ที่ใช้ประมวลผลของบริษัท C3 เป็นซอฟท์แวร์ที่มีฟังก์ชันใช้นำทางขีปนาวุธที่ใช้ทางทหาร และได้ไอเดียจากเทคโนโลยีขีปนาวุธจรวดติดตาม ด้วยเหตุนี้ความถูกต้องแม่นยำของวัตถุเล็กที่สุดที่เทคโนโลยี C3 สามารถทำแผนที่ 3 มิติขึ้นมาจะอยู่ที่ขนาด 6 นิ้ว (ประมาณ 15 เซนติเมตร)
อัลกอริทึ่มที่เทคโนโลยี C3 ใช้ในการประมวลผล จะประมวลผลจาก Stereoscopic Depth (คือการเก็บข้อมูลภาพเป็นสามมิติหรือที่สามารถสร้างภาวะลวงตาให้เห็นความลึกของภาพนั้นได้) แต่อัลกอริทึ่มนี้ยังไม่สมบูรณ์ 100% เนื่องจากวัตถุที่เล็กที่สุดที่อัลกอริทึ่มนี้สามารถประมวลผลได้คือขนาด 6 นิ้ว อัลกอริทึ่มนี้มีความสมบูรณ์ราวๆ 98% แล้ว ส่วนอีก 2% ที่เหลืออาจจะยังต้องใช้คนในการทำแผนที่ให้สมบูรณ์
การใช้ข้อมูลจากภาพถ่ายเพื่อมาประมวลผล ไม่ต้องใช้การสร้างโมเดลจำลอง 3 มิติ หมายถึงว่า การทำงานของเทคโนโลยี C3 นั้นลดขั้นตอนและเวลาเป็นอย่างมาก และส่วนที่เหลือยังใช้ระบบอัตโนมัติ เป็นการสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยีใหม่ที่มีประสิทธิภาพ, ลดต้นทุน และเวลา ได้เป็นอย่างดี
ข้อมูลเพิ่มเติม: แอปเปิ้ลให้นิยามของการใช้งานแผนที่ 3 มิติไว้ว่า 3D Flyover Maps คือการเลือกดูพื้นที่ต่างๆ ได้จากทุกทิศทาง ทั้งทาง อากาศ ย่อ ขยาย เอียง หรือหมุนไปรอบๆ หรืออื่นๆ ด้วยภาพและรายละเอียดที่สมจริง เรียกได้ว่าเป็นแผนที่ที่ทำให้เราเสมือนกับบินดูแผนที่ได้จริงๆ เลยค่ะ
อัพเดท: ในขณะนี้มีเมืองที่สามารถใช้งาน 3D Flyover Maps ได้จำนวน เมือง ดังนี้
References:
GiRL~in~PiNK