Sphero
สำหรับคนที่ยังไม่ทราบว่า Apple TV เป็นยังไงหรือทำอะไรได้บ้างเราลองมาดูตัวเครื่องไปพร้อม ๆ กันว่า Apple TV ที่เพิ่งวางขายใน Apple Online Store (TH) เป็นทางการทำอะไรได้บ้าง
สำหรับ Apple TV ในปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 3 หน้าตาของรุ่นที่ 2 และ 3 จะมาพิมพ์เดียวกันดูภายนอกไม่สามารถแยกออกได้ จุดต่างระหว่างรุ่นที่ 2 และ 3 คือรุ่นที่ 3 รองรับวิดีโอที่ขายอยู่ใน iTunes Store ได้ที่ความละเอียด 1080p จุดนี้สามารถสังเกตได้ที่ข้างกล่องจะมีข้อความ 1080p กำกับอยู่ด้วยหรือในเมนู Settings ในเครื่องจะสามารถเลือกความละเอียดได้ถึงระดับ 1080p (รุ่นที่ 2 ตัวเลือกจะมีให้ถึงแค่ 720p) ส่วนของที่มาด้วยในกล่องจะมีตัวเครื่อง Apple TV, รีโมท, สายไฟ และคู่มือ ส่วนสาย HDMI ต้องซื้อเพิ่มเองต่างหาก
สเป็คของ Apple TV (3rd Generation) ในปัจจุบันใช้ซีพียู Apple A5 รองรับวิดีโอจาก iTS ได้สูงสุดที่ 1080p (Full HD) , มีแฟลชเมโมรี่มาให้ 8GB สำหรับสตรีมวิดีโอต่าง ๆ , มี Wi-Fi a/b/g/n บิวด์อินมาให้ในตัว รองรับการใช้งาน Air Play , มี Bluetooth รองรับการใช้งานร่วมกับ Apple Wireless Keyboard ด้านช่องต่อต่าง ๆ ตามที่เห็นในรูปจากซ้ายไปขวาจะเป็นช่องต่อสายไฟ, ช่อง HDMI, ช่อง Micro USB, ช่อง Optical Audio และช่อง Ethernet 10/100
สำหรับช่อง Micro USB ตามการใช้งานปกติเราจะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวด้วยเลย ที่จะยุ่งเกี่ยวกับ Micro USB ก็คือจะ Restore เพื่อลงเฟิร์มแวร์เบต้าเพื่อลองของใหม่เท่านั้น นอกนั้นไม่ได้ใช้งานใด ๆ เพราะตัวเครื่องเวลาอัพเดทปกติก็จะสามารถทำได้เลยในตัวแบบ OTA อยู่แล้ว
การใช้งานร่วมกับ iTunes Store เพียงแค่เราล็อคอินเข้าแอคเคาท์ของเราก็เป็นกันว่าสามารถใช้งาน Apple TV ได้แล้ว เพียงแต่ตอนนี้ช่องรายการต่าง ๆ ที่มีใน Apple TV เมื่อใช้ร่วมกับ iTunes Store (TH) เหมือนยังมาไม่ครบ เพราะช่อง YouTube, Vimeo ยังไม่ปรากฏขึ้นมาทำให้ ณ วันที่เปิดจำหน่าย Apple TV ในไทยเป็นทางการมีช่องดังนี้
Movies – สำหรับกดเข้าไปซื้อหรือเช่าภาพยนตร์ใน iTunes Store (TH) โดยภาพยนตร์ที่มีอยู่ในนี้จะเป็นเรื่องเดียวกับที่เรากดดูบน iTunes บนเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ iOS การสตรีมภาพยนตร์ต่าง ๆ จากการซื้อหรือเช่าจะขึ้นอยู่กับว่าเราตั้งค่าให้เครื่องสตรีมหนังแบบไหนเข้ามาโดยมีทั้งแบบธรรมดา, แบบ 720p และ 1080p จุดนี้ขึ้นอยู่กับความเร็วอินเตอร์เน็ตที่ใช้งานด้วยว่าไหวแค่ไหน เท่าที่ผมใช้งานอยู่สตรีมแบบ 1080p กับอินเตอร์เน็ตทรู 13/1Mbps ถ้าเป็นตอนกลางวันหรือช่วงบ่าย ๆ จะอืด ๆ อยู่พอสมควร แต่ถ้าเป็นตอนกลางคืนหลังสี่ทุ่มไปแล้วดูหนังแบบ 1080p ที่สตรีมได้ลื่นไม่ติดขัดไม่ต้องรอนานมากนัก
Music – สำหรับใช้งาน iTunes Match ของแอคเคาท์เรา ซึ่งพอเปิดใช้งานเราก็จะสามารถกดฟังเพลงใน iTunes Match ของเราผ่าน Apple TV ได้ทันที จุดนี้สำหรับคนที่ไม่ได้ใช้ iTunes Match ก็จะไม่มีประโยชน์
Computer – ใช้เชื่อมต่อกับ iTunes บนเครื่องคอมพิวเตอร์ (Home Sharing) ทำให้เราสามารถเลือกเพลง, วิดีโอต่าง ๆ จากใน iTunes บนเครื่องคอมพิวเตอร์มาดูบน Apple TV ได้
Settings – เกี่ยวกับการตั้งค่าทั้งหมดของตัวเครื่อง ในส่วนของการตั้งค่า iTunes Store บน Apple TV ปัจจุบันเราสามารถใช้งานหลายแอคเคาท์สลับไปมาได้ เหมาะกับคนที่ใช้แอคเคาท์ทั้งของไทยและของประเทศอื่นร่วมกัน
Qello – ช่องรายการคอนเสิร์ต ทดลองชมฟรี 7 วันหลังจากนั้นเสียเงินค่าบริการเดือนละ $4.99
Crunchroll – ช่องการ์ตูนอนิเมะจากญี่ปุ่นและซีรีย์เอเชีย ถ้าดูการ์ตูนอย่างเดียวเดือนละ $6.99 และจะดูทั้งการ์ตูนทั้งซีรีย์เดือนละ $11.99
สำหรับช่อง YouTube แม้ยังไม่ปรากฏขึ้นมา แต่ขออธิบายไว้เลยก็แล้วกัน โดยช่อง YouTube จะใช้งานคล้าย ๆ กับ YouTube บนเครื่องคอมพิวเตอร์โดยเราสามารถล็อคอินเข้าแอคเคาท์ของเราและจัดการเข้าไปที่ช่องรายการต่าง ๆ ที่เรากดสมัครสมาชิกไว้ได้ หรือเข้าไป Playlists ที่เราสร้างเอาไว้ได้ด้วย ทั้งนี้การใช้งาน YouTube จะเน้นดูอย่างเดียว ไม่สามารถกด Subscription หรือสร้าง Playlist บน Apple TV ได้
ด้านภาพของ YouTube เท่าที่ได้ใช้งานจะจับสัญญาณภาพที่ชัดที่สุดเท่าที่อินเตอร์เน็ตเราทำได้ โดยจุดนี้เท่าที่ผมใช้งานอยู่ภาพมาเป็น HD เกือบตลอดจะมีบ้างที่วันไหนอินเตอร์เน็ตช้ามาก ๆ หรือมีปัญหาภาพที่ได้จะมาแบบแตก ๆ เพราะตัว Apple TV ไปเลือกภาพที่ 480p หรือ 320p แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับต้นทางด้วยว่ามีวิดีโอชัดสุดที่ความละเอียดระดับไหน อย่างพวกช่องที่อัพโหลดละครไทยขึ้นไปความละเอียดได้เต็มที่คือ 320p เวลาเราเลือกดูผ่าน Apple TV ภาพที่เห็นบนจอทีวีก็จะแตก ๆ อยู่เหมือนกัน ส่วนช่องที่อัพโหลดขึ้นไปที่ระดับ HD อย่าง Hormones วัยว้าวุ่น ที่ช่อง GMM One อัพโหลดขึ้นไปแบบ 720p ก็ต้องบอกว่าชัดเปรี๊ยะ
ข้อสังเกตในการดู YouTube ผ่าน Apple TV คือบางวิดีโอเจ้าของอาจไม่ได้เปิดให้ดูบน Mobile หรือ TV ทำให้เราจะไม่สามารถชมวิดีโอนั้น ๆ บน Apple TV ได้ด้วย แต่จุดนี้ถือป็นส่วนน้อยจากที่ได้ใช้งาน
สำหรับการรองรับ AirPlay เรียกวาเป็นฟีเจอร์ยอดนิยมในการซื้อ Apple TV ไปวางไว้ในห้องประชุมบริษัทเลยก็ว่าได้ เพราะทุกคนที่ใช้ Mac, iPhone, iPod touch, iPad สามารถนำเสนองาน, รูป, วิดีโอ และอื่น ๆ ที่อยู่ในเครื่องดังกล่าวขึ้นมาอยู่บนจอทีวีผ่าน Apple TV ได้เลยไม่จำเป็นต้องต่อสายกับโปรเจคเตอร์เหมือนในอดีต
เท่านี้ก่อนสำหรับการพรีวิว Apple TV ที่เพ่ิงขายในประเทศไทยเป็นทางการ
สำหรับเจ้าของเครื่อง iPhone X ตอนนี้แอพ YouTube สามารถแสดงผล HDR ได้แล้ว ..
kangg