Sphero
สำหรับ Klipsch จัดเป็นยี่ห้อที่มีตำนานสั่งสมมายาวนานหลายสิบปีในเรื่องลำโพง จนมายุคนี้นอกจากลำโพง Klipsch ได้ทำหูฟังมาตอบสนองการใช้งานที่สะดวกสบายและที่สำคัญคือเสียงที่ดี ครั้งนี้เราได้ Klipsch – R6i มาลองใช้งานเป็นยังไงติดตามไปพร้อม ๆ กัน
สำหรับ Klipsch – R6i เป็นหูฟังแบบ In-Ears น้ำหนักตัวหูฟังไม่หนักอะไร ตัวที่เราได้รับมาเป็นสีดำ และมีสีขาวให้เลือกเพิ่มเติมอีกสี ในกล่องของ Klipsch – R6i นอกจากตัวหูฟังก็จะมีกระเป๋าเก็บหูฟังใบย่อม ๆ และมีจุกยางอีกหลายขนาดมาให้เปลี่ยน โดย Klipsch – R6i ยังมีแฝดน้อง Klipsch – R6 ที่หน้าตาเหมือนกันสเป็คเดียวกันต่างกันตรงที่ Klipsch – R6 ไม่มีไมโครโฟนและรีโมทติดมาให้ด้วยที่สายหูฟัง
ฝาแฝด – ซ้าย : Klipsch – R6 / ขวา : Klipsch – R6i
บริเวณหูฟัง Klipsch – R6i (รวมถึง Klipsch – R6) ทำเป็นก้านตัวแอลที่ปลายเชิดขึ้นเล็กน้อย บริเวณหูฟังที่ต้องเข้าไปในหูของเรามีการทำองศาให้เฉียงเล็กน้อยเพื่อให้เวลาตอนเราจับหูฟังทำได้สะดวกมากขึ้น สายหูฟังของ Klipsch – R6i ทำเป็นสายแบนต่างกับหูฟังยี่ห้ออื่นที่มักจะทำเป็นสายแบบกลม ผิวสัมผัสของสายหูฟังจะลื่น ๆ หน่อย บริเวณหัวต่อ 3.5 มม. ทำเป็นแบบตรง จุดนี้เวลานำมาเสียบกับโทรศัพท์จะยื่นออกมาเยอะหน่อย
ด้านการใช้งานของ Klipsch – R6i ต้องบอกว่าเป็นหูฟัง In-Ears ที่ใส่ง่ายมาก คือเราใส่เหมือนหูฟัง In-Ears ทั่ว ๆ ไปไม่ต้องดันอะไรมากมายนักตัวหูฟังก็อยู่ในตำแหน่งที่พอดี สำหรับผู้ที่เริ่มต้นใช้งานหูฟัง In-Ears อาจจะเคยเจอปัญหาว่าใส่หูฟังแล้วไม่พอดีเสียงออกได้แค่นี้เองเหรอ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเราใส่หูฟังได้ไม่ดี ทดสอบง่าย ๆ ว่าเราใส่หูฟัง In-Ears ได้ดีแล้วรึยังด้วยการลองกลืนน้ำลายหรือลองเปล่งเสียงให้อยู่ในคอจะได้ยินเสียงก้อง ๆ อยู่ในหูในปากของเรา จุดนี้ยอมรับว่า Klipsch – R6i ทำได้ดีตอบโจทย์คนอยากได้ In-Ears แต่ประสบปัญหาเรื่องการใส่ได้ดี
เมื่อใส่ Klipsch – R6i ไปแล้วผมลองใช้แบบทั่วไปในชีวิตประวันคือเดินถนน ขึ้นรถไฟฟ้า พบว่า Klipsch – R6i แม้จะเป็น In-Ears แต่ก็ไม่ได้กั้นเสียงจนเราไม่ได้ยินรอบข้าง คือเสียงภายนอกเบาลงไปมากจริง แต่ก็ยังพอได้ยินเสียงภายนอกอยู่นิดหน่อยในกรณีที่เราไม่ได้เปิดเพลงเสียงดัง จุดนี้แล้วแต่ว่าคุณชอบแบบไหนหรือใช้หูฟังในสถานที่ไหน เพราะถ้าใช้ทั่วไปเดินถนน โหนรถเมล์ ขึ้นรถไฟฟ้าก็ควรระวังเรื่องการไม่ได้ยินเสียงภายนอกด้วย
ด้านเสียงของ Klipsch – R6i พบว่าเสียงค่อนข้างโปร่ง เสียงเครื่องดนตรี เสียงนักร้องชัดมาก ปลายเสียงสูงได้ดีประมาณหนึ่งแต่ไม่ถึงขนาดที่พลิ้วจนเคลิ้ม แม้เสียงโดยรวมจะโปร่งแต่ก็ไม่ใช่ว่าเสียงต่ำเสียงเบสจะทำได้ไม่ดี โดย Klipsch – R6i ยังตอบสนองเสียงต่ำเสียงเบสในเพลงทั่วไปได้ดี ภาพรวมของเสียงต่ำคือมีคือรู้สึกแต่จะไม่ได้มาเป็นลูกใหญ่นัก
จากที่ใช้ Klipsch – R6i ฟังเพลงหลาย ๆ แนวพบว่าถ้าผู้อ่านอยากได้หูฟัง In-Ears ที่เบสชัด ๆ เน้น ๆ มาลูกใหญ่หน่อย Klipsch – R6i จะตอบสนองได้ไม่ดีนัก ส่วนการใช้ฟังทั่วไปคิดว่าอยูในขั้นที่ตอบสนองได้ดีถ้าเป็นคนชอบเสียงแบบโปร่งหน่อยฟังได้สบาย Klipsch – R6i ตอบโจทย์
ไมโครโฟนและรีโมทของ Klipsch – R6i จะอยู่ที่สายหูฟังข้างซ้าย ตำแหน่งที่ห้อยอยู่จะเท่า ๆ กับหูฟังของแอปเปิ้ล โชคดีที่ปุ่มกดต่าง ๆ ไม่แข็งเลยทำให้การกดปุ่มต่าง ๆ ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนเรื่องไมโครโฟนจากที่ได้ลอง ทำได้ดีตามที่ควร ตัวไมโครโฟนค่อนข้างดูดเสียงรอบข้างพอควร จุดนี้ต้องระวังขณะใช้งานในสถานที่ ๆ มีเสียงรอบข้างดังเพราะเสียงรอบข้างจะเข้ามาเยอะมากหน่อย ส่วนถ้าอยู่ในห้องในที่เงียบไม่มีปัญอะไรเสียงเราที่คู่สนทนาได้ยินชัดเจน
สรุปสำหรับ Klipsch – R6i เป็น In-Ears ออกแนวเสียงโปร่ง การใช้ฟังเพลงทั่วไปตอบสนองดีใช้ฟังได้เรื่อย ๆ ไม่ล้าหูของเรา ส่วน Klipsch – R6i กับ R6 จากที่ได้ลองใช้สลับกันเสียงไม่ต่างกันเลยคือ R6i ทำได้แบบไหน R6 ก็ทำได้แบบเดียวกัน ถ้าคุณไม่ต้องการไมค์และรีโมทที่สายหูฟัง R6 ก็เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์
จุดสังเกต
ราคา :
เอื้อเฟื้ออุปกรณ์ทดสอบ : Tat Chuan Acoustic Pte. Ltd ( โทร 092 – 859-2463)
หาซื้อสินค้าได้ที่
kangg