Sphero
จากที่ dtac และ TrueMove H เปิดให้บริการ Wi-Fi Calling มาพักใหญ่ ตอนนี้ AIS เพิ่งเปิดบริการ Wi-Fi Calling สักที ลูกค้า AIS กด *399*1# โทรออก เพื่อขอใช้บริการ
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับ Wi-Fi Calling ก่อนว่าคืออะไร
เริ่มจากปัญหาของสัญญาณโทรศัพท์มือถือแม้จะผู้ให้บริการจะวางเสาสัญญาณไว้เยอะมากแค่ไหน แต่ในการใช้งานจริงก็ยังมีจุดอับสัญญาณทำให้โทรศัพท์มือถือที่เราใช้งานไม่มีสัญญาณ เช่น การอยู่ภายในอาคารสูง หรืออยู่คอนโดชั้นสูง ๆ มักจะมีปัญหาว่าสัญญาณโทรศัพท์มือถือไปไม่ถึง กลายเป็นว่าคนโทรหาเราได้บ้างไม่ได้บ้าง
ซึ่ง Wi-Fi Calling เป็นการนำสัญญาณ Wi-Fi มาใช้แทนสัญญาณโทรศัพท์ปกติ ทำให้โทรศัพท์มือถือของเรามีสัญญาณที่สามารถใช้ติดต่อการคุยโทรศัพท์ได้ปกติ ไม่ต้องกลัวว่าสัญญาณมือถือไม่ดีแล้วจะใช้โทรศัพท์โทรเข้าออกไม่ได้
การเปิดใช้งาน Wi-Fi Calling ทำอย่างไร
สำหรับ AIS ที่เพิ่งเปิดบริการ สำหรับผู้ใช้งาน iPhone ให้อัพเดท Carrier เป็น AIS 24.2 แล้วจะปรากฏเมนู Wi-Fi Calling ในเมนู Settings > Phone > Wi-Fi Calling เลือกเป็น On โดยเราจำเป็นต้องกด *399*1# โทรออก เพื่อขอใช้บริการดังกล่าวก่อน
ถ้าเปิดใช้งานทุกอย่างแล้วแต่ยังไม่ขึ้น Wi-Fi Calling ให้ลองปิด-เปิดเครื่องก่อน
สำหรับ dtac ถ้าเป็นผู้ใช้ iPhone สามารถเลือกเปิดใช้งานได้จากในเครื่องไม่จำเป็นต้องกดรหัสใด ๆ Settings > Phone > Wi-Fi Calling เลือกเป็น On
TrueMove H บริการ Wi-Fi Calling จำเป็นต้องดาวน์โหลดแอพ WiFi Calling มาใช้ควบคู่ (ข้อมูลเพิ่มเติม)
iPhone ที่รองรับการใช้ Wi-Fi Calling มีดังนี้
โทรศัพท์ผ่าน Wi-Fi Calling ฟรีรึเปล่า
ขึ้นมาว่าโทรผ่าน Wi-Fi แล้วฟรีรึเปล่า เหมือนกับเวลาเราใช้ FaceTime, ใช้ Line โทรหากันรึเปล่า สำหรับเรื่องนี้ก็ต้องบอกว่า Wi-Fi Calling เป็นการยืมสัญญาณ Wi-Fi มาแทนสัญญาณโทรศัพท์เท่านั้น การโทรผ่าน Wi-Fi Calling ยังคงเสียค่าบริการตามแพ็กเกจที่เราใช้งาน เราสามารถโทรหาคนอื่นได้จากหมายเลขโทรศัพท์ปกติ ไม่จำเป็นต้องมีแอคเคาท์แอพ LINE , Skype, Facebook, FaceTime และอื่น ๆ ของปลายทาง
ใช้ Wi-Fi Calling แบบนี้ก็ยังเสียค่าโทรศัพท์ปกติ แล้วมีดีอย่างไร
อันดับแรกเลยคือกรณีที่เราอยู่คอนโดสูงแล้วสัญญาณโทรศัพท์มือถือที่เราใช้งานมาไม่ถึง เราสามารถเลือกให้ iPhone หรือโทรศัพท์ที่รองรับเลือกใช้สัญญาณ Wi-Fi ภายในห้องของเราแทนสัญญาณมือถือได้
ถัดมากรณีไปต่างประเทศ อันนี้ถือเป็นจุดเด่นของ Wi-Fi Calling ซึ่งถ้าไม่มี Wi-Fi Calling เวลาเราเปิดโรมมิ่งแล้วรับโทรศัพท์ที่โทรมาจากเมืองไทยจะเสียเงินค่ารับโทรศัพท์ในราคาที่แพงมากเอาเรื่อง และถ้าโทรกลับมาไทยก็จะเสียค่าโทรที่แพงเช่นกัน
การมี Wi-Fi Calling ช่วงลดภาระตรงนี้ โดยเมื่อเราเปิดใช้ Wi-Fi Calling เวลาอยู่ต่างประเทศก็เหมือนเราใช้โทรศัพท์อยู่ในไทย สามารถโทรหาปลายทางที่อยู่ในไทยได้ในราคาค่าโทรปกติตามแพ็กเกจที่เราใช้งาน และเวลารับโทรศัพท์ก็รับสายฟรี ไม่เสียค่าบริการ
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าตอนไหนที่ iPhone ใช้ Wi-Fi Calling
สำหรับ iPhone รุ่นที่รองรับแม้เราจะเปิดใช้งาน Wi-Fi Calling และมีการจับสัญญาณ Wi-Fi แต่ตามปกติ iPhone จะใช้สัญญาณการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือเป็นหลัก กรณีที่สัญญาณมือถือมีน้อย เช่นว่าเหลือสัญญาณแค่ 2 ขีด iPhone จะสลับไปใช้ Wi-Fi Calling อัตโนมัติ
หรือถ้าต้องการใช้ Wi-Fi Calling เองไม่รอสลับสัญญาณให้เปิด Airplane Mode และเปิด Wi-Fi จากนั้นมุมบนซ้ายจะขึ้น (ชื่อเครือข่าย) WiFi Call มาให้เราทราบแทนสัญญาณโทรศัพท์ปกติ เช่นในรูปนี้ขึ้นเป็น AIS WiFi Call
กรณีไปเที่ยวต่างประเทศ ควรระวังอะไรในการใช้ Wi-Fi Calling
ไปเที่ยวต่างประเทศแล้วต้องการเปิดใช้ Wi-Fi Calling อย่างเดียวโดยไม่เปิดใช้บริการโรมมิ่งเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในต่างประเทศกลัวว่าเดี๋ยวเผลอรับโทรศัพท์ที่โทรมาจากเมืองไทยตอนที่ใช้สัญญาณโทรศัพท์ ให้เราทำการเปิด Airplane Mode ก่อน จากนั้นเปิดหาสัญญาณ Wi-Fi ถ้า iPhone จับสัญญาณ Wi-Fi ได้ก็จะขึ้นว่ามี WiFi Call ที่มุมบนซ้ายปรากฎขึ้นมา
ค่าบริการเวลาใช้งาน Wi-Fi Calling ในต่างประเทศ
kangg